วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

มารู้จักประโยชน์ของ ‘รักบี้’ กีฬาที่ให้คุณได้มากกว่า

สำหรับกีฬาแนวนี้ ทั้ง ‘อเมริกันฟุตบอลหรือรักบี้’ ต่างก็ได้รับการยกย่องว่า ‘ไม่แกร่งจริงเล่นไม่ได้’ ซึ่งก็ไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลย




ว่ากันว่า กีฬาประเภท ‘คนชนคน’ ผู้เล่นจะต้องมีความพร้อมแบบสุดยอด ทั้งในแง่ความฟิต, ความแกร่งหรืออึดและสมาธิอันแน่วแน่
โดยทั้งหมดจากร่างกายสำคัญด้านการออกกำลังหรือสุขภาพ ลองมาติดตามและทำความรู้จักกับประโยชน์ของ ‘รักบี้’ กันให้มากขึ้น
ได้ทำคาร์ดิโอแบบ x 3แม้ใช้อัตราความเร็วในการวิ่งเท่าฟุตบอล แต่อย่าลืมว่า รูปร่างและน้ำหนักเฉลี่ยของนักกีฬารักบี้นั้นเหนือกว่า ซึ่งแปลว่า คุณจะต้องบึกบึนระดับแรมโบ้และวิ่งเร็ว ทั้งการออกตัวและรักษาความไวในการวิ่งระยะ 1 กม. โดยเหมือนได้ทำคาร์ดิโอแบบหรือการออกกำลังที่ทำให้อัตราการเต้นหัวใจสูงขึ้น โดยร่างกายเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ  แน่นอนว่า ระบบการเผาผลาญไขมันหรือแคลอรี่จะสูงตาม
ทดสอบจังหวะร่างกายหนึ่งในการฝึกสุดหินของนักรักบี้คือ สิ่งที่เรียกว่า บีทเทสต์ (Beat test)  โดยจะต้องวิ่งในระยะ 20 หลาให้ออกมาดีที่สุดตามจังหวะที่กำหนด คือ ตอนออกตัวให้วิ่งช้าก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเร็วในระดับการสปริ้นท์ (วิ่งเต็มฝีเท้า) ซึ่งรอบต่อไปต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ความหนักที่หนักหน่วง
ด้วยความที่ต้องบึกบึน กิจกรรมออกกำลังกายพวกยกน้ำหนักจึงกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำเป็นประจำเลย เพื่อให้มวลกล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและรักษามันไว้ให้คงที่ โดยพวกเขามักทำเซตละ 6 รอบแล้ว 5 รอบ จากนั้นก็เพิ่มน้ำหนักแล้วลดจำนวนรอบต่อเซ็ตลง
ฝึกการสปริ้นท์แบบเต็มที่รักบี้เป็นกีฬาที่เน้นวิ่งพล่านเลย ความเร็วในวิ่งระยะสั้นจึงเป็นมาก ถ้าต้องการไปยังจุดหมาย โดยฝึกออกตัววิ่งด้วยตัวถ่วงด้านหลังที่หนักสัก 10 % ของน้ำหนักตัวในระยะเกิน 10 เมตร ซึ่งเมื่อฝึกไปเรื่อยๆ เวลาลงสนาม จะทำให้รู้สึกตัวเบาและสปริ้นท์ได้เร็วกว่าเดิม
คุณจะวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมรักบี้ไม่ได้เน้นการสปริ้นเต็มที่ระยะ 100 เมตร แต่เป็น 0-5 หรือ 0-10 เมตร ซึ่งมีความจำเป็นกับการวิ่งผ่านแผงหลังของคู่แข่ง โดยคุณต้องมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงอย่างมาก ซึ่งสามารถฝึกได้เองง่ายๆ ด้วยการพยายามนั่งด้วยขาทีละข้างแล้วค่อยลุกขึ้นอย่างช้าๆ
ได้ทักษะความคล่องตัวเมื่อสปริ้นได้ไวและเคลื่อนที่ได้เร็วความคล่องก็เป็นสิ่งที่จะได้ตามมา โดยเฉพาะกับการวิ่งซิกแซกแหวกแผงรับของคู่แข่งให้กระจุย

ความอึดยังตามมาด้วย
การวิ่งพล่านและปะทะกับฝั่งข้าม ก็คือ สิ่งที่คุณต้องเจอ ซึ่งนั่นทำให้การปะทะกับอะไรก็ตามในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วไปเลย
ฝึกระเบิดพลังแบบเต็มที่ถ้ามีโอกาสดูรักบี้ คงเห็นภาพสโลว์ของผู้เล่นที่อ้าปากระเบิดพลังวิ่งหลบหลีกหรือกระแทกกระทั้น ซึ่งคือ งัดเอาพลังจริงๆ ออกมาใช้
สมาธิเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ถ้าคุณจิตหลุดในระหว่างแข่งแล้ว ปัญหาที่จะตามมาคือ แผนการเล่นจะพังพลายจนอาจทำให้พ่ายแพ้หรือเนื้อตัวบาดเจ็บได้ เพราะทุกคนต้องรักษาตำแหน่งและบทบาทของตัวเองตลอดเวลาแบบต่อตัวตัว ถ้ามีคู่แข่งหลุดไปได้หรือคุณตัดสินพลาดก็อาจถึงจุดจบ
อาหารการกินแบบเฮลตี้อย่าได้คิดว่า ด้วยความบึกบึนของร่างกาย จะทำให้นักรักบี้กินแต่อาหารเพิ่มพลังหรือไขมัน เพราะความจริงแล้ว พวกเขานั้นต้องการสารอาหารอันมีประโยชน์และปราศจากไขมันด้วย เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ รวมถึงฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
สิ่งเหล่านี้ คือ ประโยชน์ของกีฬาที่มีชื่อว่า รักบี้ ซึ่งอ่านดูแล้วจะพบว่า ให้ทั้งความแข็งแรง, ความไวและความอึดขั้นสูง อีกทั้งยังเป็นกีฬาที่ใช้สมาธิและมันสมองตลอดเวลา สมกับฉายา ‘กีฬาคนจริง’ ใครสนใจอยากลอง ต้องไปฝึกดู เผื่อว่า นี่จะเป็นทางที่ใช่ของคุณ
                                               

รักบี้ฟุตบอล หรือมีชื่อเรียกย่อว่า รักบี้ เป็นกีฬาชนิดหนึ่งถือกำเนิดขึ้นประเทศอังกฤษ จุดกำเนิดมาจากโรงเรียนรักบี้ ภายหลังจากนั้นก็เป็นที่นิยมเล่นกันมากขึ้น ทั้งได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการเล่นเรื่อยมาในประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1823 จึงถือได้ว่า รักบี้ฟุตบอลปกติอาจทำแต้มด้วยการวางทรัยหรือเตะ และรักบี้ยังเป็นต้นกำเนิดของกีฬาอเมริกันฟุตบอลอีกด้วย
ถ้าจะถามว่ามีกีฬาชนิดไหนที่ต้องใช้ทั้งกำลังและความแข็งแรงผมบอกได้เลยว่า “รักบี้” เป็นหนึ่งในกีฬาประเภทนี้อยู่ด้วยครับ ถ้าถามว่ากีฬานี้สนุกไหมอันนี้ผมก็ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะว่ามันอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนครับ แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบความรุนแรงใช้แรงเยอะๆก็คงจะเหมาะแล้วล่ะครับกับกีฬานี้
ส่วนตัวผมแล้วถ้าจะให้เล่นเอามันส์อ่ะก็พอไหวอยู่หรอกครับ แต่ถ้าให้จริงจังนี่คงไม่ไหวอ่ะครับ เพราะที่เคยเล่นมาก็กฎกติกาก็งูๆปลาๆไปตามภาษาเล่นตามๆเพื่อนไปแหละครับ ไม่ได้ศึกษาหรือเล่นจริงจังอะไร เริ่มจากที่ผมไปนั่งดูอยู่ข้างสนามก่อน เห็นเขาเล่นกันน่าสนุกกันก็เลยลองเล่นดูบ้างครับ และก็ได้เรื่องเลยครับพอลงเล่นครั้งแรกก็เจ็บตัวเลยครับ SBO หัวไหล่หลุดคาสนามร้องลั่นสนามเลยครับเพื่อนๆทุกคนต้องหยุดมาช่วยกันหามส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยเลย พักฟื้นอยู่เดือนกว่าๆกว่าที่ไหล่จะกลับมาใช้งานได้ปกติ แต่ไม่รู้เป็นยังไงมันยังไม่เข็ดหลาบเท่าไหร่ พอหายดีก็ลุยต่อเลยครับแต่ทีนี้ก็มีความระวังมากขึ้นไม่เข้าไปสุ่มสี่สุ่มห้าอีกเหมือนอย่างเคย คนที่ไม่เคยได้ลองเล่นเลยได้แค่เห็นตามโทรทัศน์อาจจะมองดูเหมือนว่าลักษณะการเล่นรักบี้เหมือนกับการดับเครื่องชนกันแหลกลาน ใช้การปะทะกัน แบบชนเป็นชน แบบดูแล้วน่ารุนแรงหวาดเสียว (แต่รุนแรงจริงๆครับ) แต่กลับมีเรื่องราวชกต่อยกันในสนามน้อยมาก เล่นหนักในเกมส์ มีการเปลี่ยนแปลงกับกติกาบ้างเล็กๆน้อยๆเพื่อเพิ่มความสนุกและทันสมัยมากขึ้น    
                                                       
                                         
กีฬารักบี้ที่ดูรุนแรงและดุดันยังไงมันก็มีกฎและกติกาในตัวของมัน ถ้าคิดว่าอยากใช้กำลังให้สุดโต่ง นี่เลยรักบี้ครับ มาใช้ในแบบที่ถูกที่และเป็นประโยชน์จะดีกว่านะครับ ถ้าจะให้เปรียบเทียบกับกีฬาที่มีการปะทะกันล่ะก็ ผมบอกได้เลยว่าอันนี้มีการปะทะมากพอสมควรแต่นักกีฬากลับไม่เคยมีเรื่องชกต่อยหรือเกิดความไม่พอใจกันเลย เหมือนว่านักกีฬารักบี้ทุกคนเข้าถึงเกมส์การเล่นมากกว่ากีฬาอื่นๆ เลยรู้ว่าจุดหมายของเกมส์ไม่ใช่การทะเลาะวิวาท แต่เป็นการนำเอาลูกรักบี้ไปไว้ในเส้นของอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ที่กล้าบอกแบบนี้ก็เพราะว่าขนาดผมเองเป็นตัวขนาดนั้น ยังไม่เคยนึกโกรธใครเลยสักคนครั



ประวัติรักบี้ฟุตบอล

ประวัติรักบี้ฟุตบอล

รักบี้ฟุตบอลเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2366 ที่ประเทศอังกฤษ โดยนายวิลเลี่ยม เอบบ์ เอลลิสเป็นคนแรกที่เริ่มต้นขึ้นในขณะกำลังเล่นฟุตบอลที่โรงเรียนรักบี้ (Rugby School) เขาก้มลงหยิบลูกฟุตบอลและพาวิ่งไป อันเป็นทักษะเบื้องต้นที่ต่อมาได้นำไปปรับปรุงจนเป็นกีฬารักบี้ฟุตบอลในที่สุด
  


                                                                     
ประวัติรักบี้ฟุตบอลในประเทศไทย
- พ.ศ. 2478 มีทีมรักบี้ที่เป็นทางการคือทีม England, Scotland และ The Rest ซึ่งเป็นทีมของคนไทย
- พ.ศ. 2481 กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.) และเอกอัคราชทูตอังกฤษ ก่อตั้งสมาคมรักบี้ฟุตบอลที่ราชกรีฑาสโมสร
- พ.ศ. 2493 ได้รับให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์

รักบี้ฟุตบอล เป็นกีฬาที่ทรงคุณค่า สร้างการทำงานเป็นทีมความเข้าใจซึ่งกันและกัน ความร่วมมือช่วยเหลือกัน ปลูกฝังความทรหดอดทน และสร้างจิตวิญญาณวิญญาณของความเป็นนักกีฬาโดยสมบูรณ์หนึ่งทีมประกอบด้วยผู้เล่น 15 คน หรือ 7 คน เล่นกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมภายใต้กติกาที่กำหนดและมีน้ำใจเป็นนักกีฬา โดยมีผู้เล่นที่อยู่ในสนามจะต้องไม่ล้ำหน้า และสามารถเล่นได้โดยการถือลูกวิ่ง ส่งลูกไปข้างหลังเตะลุก จับคู่ต่อสู้ แย่งลูก เก็บลูก ทำสกรัม รักมอล แถวทุ่ม และนำลูกไปวางหรือกดในเขตประตูฝ่ายตรงข้าม เพื่อทำคะแนนให้ได้มากที่สุด ทีมที่ทำคะแนนได้มากกว่าจะเป็นทีมชนะการแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง แต่ละครึ่งไม่เกิน 40 นาที




กติกาการเล่นรักบี้

สนาม ( The Ground )
ขนาดสนาม
ก. สนามการเล่นไม่เกิน 100 เมตร กว้างไม่เกิน 70 เมตร ในเขตประตูยาวไม่เกิน 22 เมตร
ข. ความยาวและความกว้างของพื้นที่การเล่นดูได้จากแผนภูมิและต้องเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ค. พื้นที่ระหว่างเส้นประตูกับเส้นลูกตายต้องไม่น้อยกว่า 10 เมตร
เส้นสนาม
ก. เส้นทึบ ประกอบด้วย เส้นประตู เส้น 22 เมตร เส้นกึ่งกลางสนาม เส้นข้างสนาม
ข. เส้นประ ประกอบด้วย เส้น 10 เมตร เส้น 5 เมตร
รูปแบบของเสาและประตูและคาน
ก. เสาประตู กว้าง 5.6 เมตร
ข. คานถูกวางไว้ระหว่างเสาทั้งสองอยู่เหนือพื้น 3 เมตร
ค. ความสูงของเสาอย่างน้อย 3.4 เมตร จากคานขึ้นไป
ง. เบาะหุ้มเสาเมื่อติดกับเสาประตูแล้วต้องมีความหนาไม่เกิน 300 มิลลิเมตร



บอล ( The Ball )


รูปร่าง ของลูกบอลต้องเป็นรูปไข่ และทำดัวยวัตถุ 4 ชิ้นประกอบกัน
ขนาด ความยาว 280-300 มม. เส้นรอบวง (ด้านยาว) 760-790 มม. เส้นรอบวง (ด้านกว้าง) 580-620 มม.
วัสดุ เป็นหนังหรือวัสดุสังเคราะห์ที่มีลักษณะที่คล้ายหนังไม่ติดโคลนและง่ายต่อการจับ
น้ำหนัก 400-440 กรัม
วามดันลม 0.67-070 กก.ต่อ ลบ.ซม. หรือ 9 1/2 - 10 ปอนด์ต่อ ลบ.นิ้ว

จำนวนผู้เล่น ( Number Of Player - The Team )
ทีม ( team ) ทีมหนึ่งจะมีผู้เล่น 15 คน ซึ่งลงเล่นในสนามรวมทั้งผู้เล่นสำรองเพื่อเปลี่ยนตัว
การเปลี่ยนตัว เมื่อผู้เล่นเกิดบาดเจ็บจะถูกเปลี่ยนตัวโดยผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน
ผู้เล่นสำรอง คือผู้เล่นี่เปลี่ยนลงไปแทนผู้เล่นในสนามตามกติกา
จำนวนผู้เล่นในสนามมากที่สุด : ไม่เกิน 15 คน
เมื่อมีผู้เล่นน้อยกว่า 15 คน อนุญาติให้มีผู้เล่นน้อยกว่า 15 คนได้แต่จะต้องมีผู้เล่นในสกรัมไม่น้อยกว่า 5 คนตลอดเกม
การเปลี่ยนตัวถาวร ผู้เล่นที่บาดเจ็บสามารถเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงไปเล่นชั่วคราวได้แต่ถ้าเปลี่ยนตัวถาวรแล้วจะกลับลงไปเล่นอีกไม่ได้ การเปลี่ยนตัวชั่วคราวในกรณีผู้เล่นบาดเจ็บจะเปลี่ยนลงไปได้เมื่อเกิดลูกตาย และผู้ตัดสินอนุญาติ
การเปลี่ยนตัวชั่วคราว
ก. เมื่อผู้เล่นบาดเจ็บมีเลือดออก หรือมีแผลเป็นต้องออกมาปฐมพยาบาลกรณีนี้สามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นลงไปเล่นชั่วคราวได้โดยไม่นับจำนวนครั้ง หรือผู้เล่นที่เปลี่ยนตัว
ข. ถ้าผู้เล่นที่เปลี่ยนลงไปชั่วคราวบาดเจ็บ ก็สามารถเปลี่ยนผู้เล่นได้อีก
ค. ถ้าผู้เล่นที่เปลี่ยนลงไปชั่วคราวทำผิดกติกาจนถูกให้ออกจากสนามผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนไม่สามารถกลับลงมาเล่นได้



เครื่องแต่งกาย ( Player''s Clothing )
เครื่องแต่งกายของผู้เล่น คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้เล่นสวมใส่ เสื้อ กางเกงขาสั้นและกางเกงชั้นในและถุงเท้า เครื่องแต่งกายเพิ่มเติมของผู้เล่น
ก.ผู้เล่นอาจจะสวมวัสดุที่ยิดหยุ่นและสามารถทำความสะอาดได้
ข.ผู้เล่นอาจจะสวมใส่เครื่องป้องกันหน้าแข้ง ภายในถุงเท้า
ค.ผู้เล่นอาจจะใส่สนับข้อเท้าภายในถุงเท้า ซึ่งไม่ยาวเกิน 1 ส่วน 3 ของความยาวของหน้าแข้ง
ง.ผู้เล่นอาจจะสวมถุงมือ ชนิดไม่มีนิ้ว
จ.ผู้เล่นอาจจะสวมที่รองไหล่ที่ทำด้วยวัสดุที่นุ่มและบาง ซึ่งอาจจะเน้นติดกับเสื้อ ซึ่งไม่หนาเกิน 1 ซม.
ฉ.ผู้เล่นอาจจะใส่ฟันยาง
ช.ผู้เล่นอาจจะสวมเครื่องป้องกันศรีษะ ที่ทำจากวัสดุนุ่มและบาง
ซ.ผู้เล่นอาจจะใช้ผ้าพันแผลเพื่อปิดแผลได้
ฌ.ผู้เล่นอาจจะพันผ้าเทปหรือวัสดุอื่น เพื่อป้องกันการบาดเจ็บได้
ปุ่มรองเท้า
ก.ปุ่มรองเท้าต้องเป็นไปตามมาตรฐาน British Standard BS6366 1983 หรือมาตรฐานเทียบเท่า
ข.ปุ่มรองเท้าต้องเป็นรูปทรงกลม และติดแน่นที่พื้นรองเท้า
ค.ปุ่มของรองเท้าต้องมีขนาดดังนี้ ไม่ยาวเกิน 18 มม. วัดจากพื้น เส้นผ่าศูนย์กลางปลายปุ่มอย่างน้อย 10 มม.เส้นผ่าศูนย์กลางของฐานปุ่มอย่างน้อย 13 มม. เส้นผ่าศูนย์กลางของวงแหวนสวมเกลียวของปุ่มอย่างน้อย 20 มม
ง.พื้นรองเท้าที่มีหลายปุ่มใช้ได้ แต่ต้องไม่แหลม

เวลา ( Time )
เวลาของการแข่งขัน ( Duration of a Math )
ในการแข่งขันแต่ละแมทช์ จะต้องไม่เกิน 80 นาที บวกกับเวลาที่เสียไป เวลาพิเศษ และสถานการณ์พิเศษแต่ละแมทช์ จะแข่งเป็น 2 ครึ่ง แต่ละครึ่งไม่เกิน 40 นาที ในเวลาของการเล่น
ครึ่งเวลา ( Half Time )
หลังจากหมดครึ่งแรกแล้วจะเปลี่ยนข้าง มีเวลาพักไม่เกิน 10 นาที
เวลาพิเศษของการเล่น ( Playing extra Time )
ในการแข่งขันอาจจะใช้เวลามากกว่า 80 นาที ถ้าสมาคมได้กำหนดไว้ว่าเป็นเวลาพิเศษ ในการเล่นเสมอกัน ในการแข่งขันแบบแพ้คัดออก
รูปแบบการเล่น ( Mode Of Play )
โดยการเตะลูกที่วางบนพื้นสนามที่กึ่งกลางสนามไปให้ถึงเส้น 10 เมตรของฝ่ายตรงข้าม เมื่อเริ่มเล่นครึ่งเวลาแรก และครึ่งเวลาหลังเท่านั้นหลังจากเตะเริ่มเล่น ผู้เล่นที่อยู่ในสนามสามารถเล่นได้โดยการจับลูก วิ่งพร้อมลูก ส่งลูกเตะลูก ส่งลูกให้ผู้เล่นคนอื่น จับคู่ต่อสู้ แย่งลูก เก็บลูก ทำสกรัม รัค มอล แถวทุ่ม นำลูกไว้วางในเขตประตูฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการเล่นจะต้องเป็นไปตามกติกาการแข่งขัน
เมื่อฝ่ายหนึ่งทำคะแนนได้ให้อีกฝ่ายหนึ่งมาเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะลูกพร้อม (DROP KICK) ที่กึ่งกลางสนามไปให้ถึงเส้น 10 เมตรของฝ่ายที่ทำคะแนนได้
ถ้าฝ่ายเตะลูกเริ่มเล่น เตะลูกเข้าไปในเขตประตูของ ฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นไม่เอาลูกออกมาเล่นแล้วกดลูกในเขตประตูของตนเอง ให้ทำสกรัมที่กึ่งกลางสนาม ฝ่ายตรงข้าม เป็นฝ่ายใส่ลูกเข้าสกรัม

http://netzealove.blogspot.com/

ประโยชน์ของการเล่นกีฬา


การเล่นกีฬาและออกกำลังกายที่พอดีอยู่เสมอ จะมีผลดีต่อ
ร่างกาย ดังนี้


1. ระบบหมุนเวียนโลหิต กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นตัวดี ชีพจรขณะพักลดลง ซึ่งแสดงถึงประสิทธิภาพสำรองของหัวใจดีขึ้นสามารถทำงานได้ดี

2. ระบบหายใจ ถุงลมหด และขยายยืดตัวได้ดี ปอดแข็งแรง
3. ระบบกล้ามเนื้อ แข็งแรง
4. ระบบโครงกระดูก กระดูกข้อต่อแข็งแรง ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดี
5. ประโยชน์ทั่วไป
    5.1 ทำให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ
    5.2 ทำให้ร่างกายมีสมรรถภาพ ในด้านความทนทาน แข็ง
          แรง อ่อนตัว ว่องไว และการทรงตัวดี สามารถทำงาน
          ต่างๆ ได้มากขึ้น ความเหนื่อยมีน้อยลง กระฉับกระเฉง
         ไม่อ่อนเพลีย
   5.3 มีโอกาสบริหารร่างกายได้ทุกส่วน ช่วยควบคุมตัวและทรวดทรง
   5.4 ช่วยลดไขมัน และน้ำตาลในกระแสเลือด
   5.5 นอนหลับสบายลดความตรึงเครียดในสมอง
   5.6 ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ขับถ่ายสบาย ท้องไม่ผูก
   5.7 จิตใจผ่องใส แก้อาการหงอยเหงา เซื่องซึม
   5.8 มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีสติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ที่ดี


                                 
             


ประโยชน์ของการเล่นกีฬา 


การเล่นกีฬาและออกกำลังกายที่พอดีอยู่เสมอ จะมีผลดีต่อร่างกาย ดังนี้

1. ระบบหมุนเวียนโลหิต กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น หลอด
เลือดมีความยืดหยุ่นตัวดี ชีพจรขณะพักลดลง ซึ่งแสดงถึง
ประสิทธิภาพสำรองของหัวใจดีขึ้นสามารถทำงานได้ดี
2. ระบบหายใจ ถุงลมหด และขยายยืดตัวได้ดี ปอดแข็งแรง
3. ระบบกล้ามเนื้อ แข็งแรง
4. ระบบโครงกระดูก กระดูกข้อต่อแข็งแรง ข้อต่อเคลื่อน
ไหวได้ดี
5. ประโยชน์ทั่วไป
    5.1 ทำให้มีสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจ
    5.2 ทำให้ร่างกายมีสมรรถภาพ ในด้านความทนทาน แข็ง
          แรง อ่อนตัว ว่องไว และการทรงตัวดี สามารถทำงาน
          ต่างๆ ได้มากขึ้น ความเหนื่อยมีน้อยลง กระฉับกระเฉง
         ไม่อ่อนเพลีย
   5.3 มีโอกาสบริหารร่างกายได้ทุกส่วน ช่วยควบคุมน้ำหนัก
         ตัวและทรวดทรง
   5.4 ช่วยลดไขมัน และน้ำตาลในกระแสเลือด
   5.5 นอนหลับสบายลดความตรึงเครียดในสมอง
   5.6 ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ขับถ่ายสบาย ท้องไม่ผูก
   5.7 จิตใจผ่องใส แก้อาการหงอยเหงา เซื่องซึม
   5.8 มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีสติปัญญาและความคิดสร้าง
         สรรค์ที่ดี
กีฬาส่งผลต่อคุณภาพชีวิตจริงหรือไม่ อย่างไร??
จริงครับแต่ก่อนอื่นเราควรทราบถึงคำนิยามของคุณภาพชีวิตก่อน  สำหรับตัวผม  คุณภาพชีวิต หมายถึง ชีวิตที่มีคุณภาพ เช่น จิตใจดี สุขภาพดี ครอบครัวดี สิ่งแวดล้อมดี อาหารดี สังคมดี ฯลฯ  สุดท้ายแล้วคือตัวเรามีความสุข  เพราะตัวเรามีการจัดการความคิดที่ดี  หรือมีสติกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิต  ถึงแม้ขณะนั้นคุณกำลังมีทุกข์ คุณก็จะมีความสุขกับทุกข์นั้นๆ
การกีฬา มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านสุขภาพ และพลานามัย และด้านจิตใจเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ประชาชนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างที่เราได้ทราบโดยทั่วไปว่าเล่นกีฬาแล้วจะได้ประโยชน์ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และจิตใจ หากบุคคลใดเข้าใจอย่างผิวเผินย่อมเห็นว่า มี คุณค่าน้อยมาก อาจจะชัดเจนในบางเรื่อง เช่น สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรงขึ้นอารมณ์แจ่มใสสนุกสนานร่าเริงมากกว่าแต่คุณค่าจากการเข้าร่วมกิจกรรมการเล่นกีฬามีอีกมากมายถ้าสามารถเข้าถึงแก่นแท้จริง ๆ กิจกรรมกีฬาสร้างเสริมวินัย และความรับผิดชอบ สร้างเสริมภาวะการเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ปฏิบัติตามกฎระเบียบกติกา ได้อย่างดี มีทักษะในการบริหารจัดการ เสียสละ ช่วยเหลือบุคคลอื่นด้วยความเต็มใจ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น อีกทั้งช่วยให้ห่างไกลยาเสพติด เป็นต้น กิจกรรมกีฬาเปรียบได้กับการจำลองสถานการณ์ในการดำเนินชีวิตจริงดังนั้นทุกคนสามารถถ่ายโยงและประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

การเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ

การเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ



เล่นกีฬาที่ชอบ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง


   
      การเล่นกีฬานั้น ประกอบด้วยกิจกรรมปกติหรือทักษะที่อยู่ภายใต้กติกาซึ่งถูกกำหนดโดยความเห็นที่ตรงกันโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพักผ่อน การแข่งขัน ความเพลิดเพลิน ความสำเร็จ การพัฒนาของทักษะ หรือหลายสิ่งรวมกัน กีฬาเป็นกิจกรรมที่ควบคู่กับการแข่งขัน โดยการเล่นกีฬานั้นมีหลายวัตถุประสงค์อาจจะเล่นเพื่อความเป็นเลิศ เล่นกีฬาเป็นอาชีพ เหล่าดีก็ล้วนเป็นสิ่งที่ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่แข็งแรงจากการออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬาทั้งสิ้น และการเล่นกีฬานั้นมัหลายประเภทซึ่งขึ้นอยู่กับบุคคลว่าต้องการเล่นกีฬาชนิดใด ซึ่งกีฬาแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันทั้งวิธีการเล่น กฏกติกามารยาท ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละบุคคล

      

         การเลือกเล่นกีฬานั้นควรจะดูถึงความเหมาะสมของสรีระหรือร่างกายของผู้เล่นด้วยว่ามีความเหมาะสมกับกีฬาชนิดนั้นหรือไม่ อาจรวมถึงทักษะความถนัดความชอบของแต่ละบุคคล แต่สำหรับการเล่นกีฬาเพื่ออกกำลังกายหรือเพื่อสุขภาพนั้น ก็อาจจะคำนึงถึงแค่เพียงความชอบและความถนัดเท่านั้นอาจจะไม่ต้องมีทักษะหรือความถนัดอะไรมากมายก็สามารถเล่นกีฬาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงได้

การเลือกกีฬาเพื่อสุขภาพ


กีฬา ทุกชนิดให้ผลต่อสุขภาพแตกต่างกัน และแม้จะเป็นกีฬาชนิดเดียวกัน วิธีเล่น ความชำนาญของผู้เล่น ความหนัก - นาน - บ่อยของการเล่น ก็ยังทำให้ผลต่อสุขภาพผิดแผกไปได้มาก ยิ่งเป็นกีฬาที่แข่งขันกันด้วยแล้ว ระดับและความสำคัญของการแข่งขัน คู่แข่งขัน ตลอดจนภาวะแวดล้อมของการแข่งขัน จะเข้ามาเป็นตัวแปรเพิ่ม จนบางครั้งทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพแทนที่จะเป็นผลดี
คำว่า " กีฬาเพื่อสุขภาพ " หมายถึงการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายที่มีจุดประสงค์แน่นอนในการพัฒนาสุขภาพทั้งร่างกาย
และจิตใจ ซึ่งอาจหมายถึงการดำรงรักษาสุขภาพที่ดีอยู่แล้วมิให้ลดถอยลง ปรับปรุงสุขภาพที่ทรุดโทรมให้ดีขึ้น ป้องปันโรคที่เกี่ยวเนื่องกับการขาดออกกำลังกาย ตลอดจนช่วยแก้ไขหรือฟื้นฟสภาพร่างกายจากโรคบางอย่าง กีฬาเพื่อสุขภาพจึงมีลักษณะที่แตกต่างจากกีฬาแข่งขันอยู่มาก เพราะมิได้เกี่ยวข้องกับชัยชนะ หรือชื่อเสียงเช่นกีฬาแข่งขัน
ลักษณะของกีฬาเพื่อสุขภาพ
อาจกล่าวได้ว่ากีฬาทุกชนิดที่ใช้แข่งขัน เกมส์ หรือการละเล่นที่ใช้แรงกาย การบริหารร่างกายและการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ และแม้แต่การปฏิบัติงานหนัก หรืองานอดิเรกที่ใช้แรงกายสามารถนำมาใช้หรือดัดแปลงให้เป็นกีฬาเพื่อสุขภาพได้ทั้งนั้น แต่ทั้งนี้จะต้องจัดให้เข้ากับลักษณะของกีฬาเพื่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
ลักษณะบังคับ :
- เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
 - สามารถควบคุมความหนักเบาได้ด้วยตัวเอง
- มีการฝึกความอดทนของระบบการหายใจและระบบการไหลเวียนเลืด ( แอโบิคส์ ) อยู่ด้วย
- สามารถปฏิบัติเป็นประจำสมำ่เสมอได้

ลักษณะประกอบ :
- มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุน้อย หรือไม่มี
- ปฏิบัติง่าย ไม่มีกฎกติกาหรือเทคนิคที่ยุ่งยาก
- มีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ไม่เคร่งเครียด
- ไม่สิ้นเปลืองมาก 

การเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ

เล่นกีฬาที่ชอบ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง
   
      การเล่นกีฬานั้น ประกอบด้วยกิจกรรมปกติหรือทักษะที่อยู่ภายใต้กติกาซึ่งถูกกำหนดโดยความเห็นที่ตรงกันโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพักผ่อน การแข่งขัน ความเพลิดเพลิน ความสำเร็จ การพัฒนาของทักษะ หรือหลายสิ่งรวมกัน กีฬาเป็นกิจกรรมที่ควบคู่กับการแข่งขัน โดยการเล่นกีฬานั้นมีหลายวัตถุประสงค์อาจจะเล่นเพื่อความเป็นเลิศ เล่นกีฬาเป็นอาชีพ เหล่าดีก็ล้วนเป็นสิ่งที่ควบคู่ไปกับการมีสุขภาพที่แข็งแรงจากการออกกำลังกายโดยการเล่นกีฬาทั้งสิ้น และการเล่นกีฬานั้นมัหลายประเภทซึ่งขึ้นอยู่กับบุคคลว่าต้องการเล่นกีฬาชนิดใด ซึ่งกีฬาแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันทั้งวิธีการเล่น กฏกติกามารยาท ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของแต่ละบุคคล

      

         การเลือกเล่นกีฬานั้นควรจะดูถึงความเหมาะสมของสรีระหรือร่างกายของผู้เล่นด้วยว่ามีความเหมาะสมกับกีฬาชนิดนั้นหรือไม่ อาจรวมถึงทักษะความถนัดความชอบของแต่ละบุคคล แต่สำหรับการเล่นกีฬาเพื่ออกกำลังกายหรือเพื่อสุขภาพนั้น ก็อาจจะคำนึงถึงแค่เพียงความชอบและความถนัดเท่านั้นอาจจะไม่ต้องมีทักษะหรือความถนัดอะไรมากมายก็สามารถเล่นกีฬาเพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงได้

การเลือกกีฬาเพื่อสุขภาพ


กีฬา ทุกชนิดให้ผลต่อสุขภาพแตกต่างกัน และแม้จะเป็นกีฬาชนิดเดียวกัน วิธีเล่น ความชำนาญของผู้เล่น ความหนัก - นาน - บ่อยของการเล่น ก็ยังทำให้ผลต่อสุขภาพผิดแผกไปได้มาก ยิ่งเป็นกีฬาที่แข่งขันกันด้วยแล้ว ระดับและความสำคัญของการแข่งขัน คู่แข่งขัน ตลอดจนภาวะแวดล้อมของการแข่งขัน จะเข้ามาเป็นตัวแปรเพิ่ม จนบางครั้งทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพแทนที่จะเป็นผลดี
คำว่า " กีฬาเพื่อสุขภาพ " หมายถึงการเล่นกีฬาและการออกกำลังกายที่มีจุดประสงค์แน่นอนในการพัฒนาสุขภาพทั้งร่างกาย
และจิตใจ ซึ่งอาจหมายถึงการดำรงรักษาสุขภาพที่ดีอยู่แล้วมิให้ลดถอยลง ปรับปรุงสุขภาพที่ทรุดโทรมให้ดีขึ้น ป้องปันโรคที่เกี่ยวเนื่องกับการขาดออกกำลังกาย ตลอดจนช่วยแก้ไขหรือฟื้นฟสภาพร่างกายจากโรคบางอย่าง กีฬาเพื่อสุขภาพจึงมีลักษณะที่แตกต่างจากกีฬาแข่งขันอยู่มาก เพราะมิได้เกี่ยวข้องกับชัยชนะ หรือชื่อเสียงเช่นกีฬาแข่งขัน
ลักษณะของกีฬาเพื่อสุขภาพ
อาจกล่าวได้ว่ากีฬาทุกชนิดที่ใช้แข่งขัน เกมส์ หรือการละเล่นที่ใช้แรงกาย การบริหารร่างกายและการออกกำลังกายรูปแบบต่าง ๆ และแม้แต่การปฏิบัติงานหนัก หรืองานอดิเรกที่ใช้แรงกายสามารถนำมาใช้หรือดัดแปลงให้เป็นกีฬาเพื่อสุขภาพได้ทั้งนั้น แต่ทั้งนี้จะต้องจัดให้เข้ากับลักษณะของกีฬาเพื่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
ลักษณะบังคับ :
- เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
 - สามารถควบคุมความหนักเบาได้ด้วยตัวเอง
- มีการฝึกความอดทนของระบบการหายใจและระบบการไหลเวียนเลืด ( แอโบิคส์ ) อยู่ด้วย
- สามารถปฏิบัติเป็นประจำสมำ่เสมอได้


ลักษณะประกอบ :
- มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุน้อย หรือไม่มี
- ปฏิบัติง่าย ไม่มีกฎกติกาหรือเทคนิคที่ยุ่งยาก
- มีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ไม่เคร่งเครียด
- ไม่สิ้นเปลืองมาก 



การเลือกกีฬาเพื่อสุขภาพ 

เป็นการเลือกชนิดของกิจกรรมการใช้แรงกายให้ได้ประโยชน์แก่สุขภาพอย่างมากที่สุด โดยไม่จำกัดว่าจะมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวหรือ หลายอย่างประกอบกัน ในทางปฏิบัติมักเป็นการยากที่จะเลือกกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งให้ได้ " ลักษณะของกีฬาเพื่อสุขภาพ " ครบทุกข้อ แต่ก็ไม่มีข้อห้ามใดที่ผู้ปฏิบัติจะเลือกกิจกรรมหลายอย่าง มาประกอบกัน เพื่อเป็นกีฬาเพื่อสุขภาพของตน

การออกกำลังกาย

          การมีสุขภาพดีนับว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่ทุกคนปรารถนา  คำว่าสุขภาพดีในที่นี้หมายถึงการที่เราดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง  ตั้งแต่เรื่องการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน  การพักผ่อนที่เพียงพอ การป้องกันโรค  การลดหรือเลิกสิ่งที่บันทอนสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายมีความสดชื่น  กระฉับกระเฉง พร้อมที่จะดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ   ปัจจุบันคนไทยได้หันมาให้ความสนใจ และเอาใจใส่ต่อสุขภาพกันมากขึ้น  ดังจะเห็นได้จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และถูกหลักโภชนาการ หรือการรวมกลุ่มกันเล่นกีฬาและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ  ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากในขณะนี้  การออกกำลังกายให้ได้ผลดีนั้นจะต้องค่อย ๆ ทำ ต้องใช้เวลา  และควรทำอย่างสม่ำเสมอด้วยวิธีการที่เหมาะสม  จะทำให้ร่างกายเกิดพัฒนาการอย่างมีคุณภาพและมีสุขภาพแข็งแรงในระยะยาว  สำหรับการออกกำลังกายที่ดีและถูกต้องนั้นต้องประกอบด้วย


การเตรียมพร้อมก่อนออกกำลังกาย  


          ในการออกกำลังกายนั้นไม่ว่าท่านจะมีอายุอยู่ในช่วงวัยใด  และไม่ว่าจะออกกำลังกายนานแค่ไหน หรือบางท่านยังไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลย  ท่านก็สามารถที่จะออกกำลังกายได้โดยเริ่มต้นจากวิธีง่าย ๆ คือ การออกกำลังกายจากกิจวัตรประจำวัน เช่น การเดินหรือขี่จักรยาน เมื่อไปยังสถานที่ที่ไม่ไกล หรือหยุดการใช้รถ แต่ใช้การเดินไปทำงานสำหรับผู้ที่มีบ้านและที่ทำงานไม่ไกลจากกัน  หรือใช้บันไดแทนการขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน เป็นต้น  ให้ท่านทำกิจวัตรเหล่านี้ทุกวันเป็นเวลา 1-2 เดือน จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น  เช่น เดินให้เร็วขึ้น  ขี้จักรยานให้นานขึ้น  ขึ้นบันไดหลายชั้นขึ้น  ว่ายน้ำ เป็นต้น  และในช่วงแรก ๆ ของออกกำลังกายไม่ควรหยุด ให้ออกกำลังอย่างสม่ำเสมอจนเป็นนิสัย  หากเป็นไปได้ควรจะมีกลุ่มเพื่อน เพื่อช่วยกันประคับประคอง  หรือท่านอาจจะให้คนในครอบครัวมามีส่วนร่วมด้วยก็จะดี
            ท่านที่เริ่มต้นออกกำลังกาย  ควรใช้วิธีเดินไม่ควรวิ่ง  เนื่องจากการเดินจะทำให้ท่านไม่เหนื่อยมาก  และยังสามารถลดน้ำหนักได้ด้วย  นอกจากนี้อาการปวดข้อจะมีไม่มาก  เหมาะสำหรับคนอ้วน หรือผู้ที่เริ่มออกกำลังกาย  ส่วนการวิ่งจะเป็นการออกกำลังกายสำหรับผู้ที่เตรียมร่างกายไว้พร้อมแล้ว  เพราะการวิ่งจะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ทำให้เหนื่อย เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการเพิ่มความฟิตของร่างกายให้มากขึ้น


การออกกำลังกายอย่างปลอดภัย


            หลังจากที่ท่านเตรียมความพร้อม และได้ออกกำลังกายจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว หากท่านต้องการเพิ่มความฟิตร่างกายก็สามารถกระทำได้  ทั้งนี้ท่านควรเลือกการออกกำลังกายที่ชอบและสะดวกที่สุด  แต่สำหรับท่านที่มีอายุมากกว่า 45 ปี หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการเลือกวิธีการออกกำลังกาย  นอกจากนี้ในการออกกำลังกายไม่ควรหักโหมมากในครั้งแรก ๆ การออกกำลังกายที่ดี ควรเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำเป็นครั้งคราวแต่หักโหม และไม่ควรกลั้นหายใจหรือสูดลมหายใจอย่างแรง  ควรหายใจเข้าและออกยาว ๆ เพื่อช่วยระบบการหายใจของร่างกาย  และขณะออกกำลังกายท่านสามารถสังเกตอาการขณะออกกำลังกายว่าทำมากไปหรือไม่  โดยสังเกตจากอาการ ดังนี้
           - หัวใจเต้นมากจนรู้สึกเหนื่อย
           - หายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค
           - เหนื่อยจนเป็นลม
            หากมีอาการดังกล่าว  ขอให้ท่านหยุดการออกกำลังกายสัก วัน  และเวลาออกกำลังกายในครั้งต่อไปให้ลดระดับการออกกำลังกายลง


การเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย

            ก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง ท่านต้องทำการอบอุ่นร่างกายก่อน  อาจใช้วิธีเดินภายในบ้าน รอบบ้าน หรือเดือนบนสายพาน ฯลฯ โดยปกติแล้วควรใช้เวลาในการอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที ซึ่งในกาทำความอบอุ่นร่างกายนี้จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้น และหลอดเลือดมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น เป็นการป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย

การปฏิบัติตัวหลังการออกกำลังกาย

            หลังจากออกกำลังกายแล้ว อย่าหยุดออกกำลังกายในทันที  โดยเฉพาะท่านที่ออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน อาจทำให้เกิดอาการหน้ามือ ควรอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที  จนกระทั่งชีพจรกลับคืนสู่สภาพปกติ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอภายหลังออกกำลังกาย

ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
            ท่านที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
            - ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี  ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้น ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ  โรคความดันต่ำ มีภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น  และป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคข้อเสื่อม เป็นต้น
            - ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก การทรงตัว และทำให้การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้น
            - ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
           - ช่วยลดความเครียด และทำให้การนอนหลับพักผ่อนดีขึ้น



มารู้จักประโยชน์ของ ‘รักบี้’ กีฬาที่ให้คุณได้มากกว่า

สำหรับกีฬาแนวนี้ ทั้ง ‘อเมริกันฟุตบอลหรือรักบี้’ ต่างก็ได้รับการยกย่องว่า ‘ไม่แกร่งจริงเล่นไม่ได้’ ซึ่งก็ไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลย ...